ประสิทธิผลการจัดการเรียนการสอนแบบหลักสูตรความร่วมมือโรงเรียน-โรงงานระยะที่
1 (พ.ศ.2538-พ.ศ.2541) โรงเรียนเทคโนโลยีทีพีไอ
ปีที่ทำวิจัย
:
พฤษภาคม พ.ศ. 2547
การเผยแพร่ : ตีพิมพ์ในหนังสือคุณภาพการจัดการศึกษา
:
รวมผลงานวิจัยอาชีวศึกษาเอกชนจังหวัดระยอง ระยอง : พีเอสการพิมพ์. 2547.
หน้า 1-59.
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบระดับประสิทธิผลในการจัดการเรียนการสอนแบบหลักสูตรความร่วมมือโรงเรียน-โรงงาน ของโรงเรียนเทคโนโลยีทีพีไอ ระยะที่ 1
(พ.ศ. 2538 พ.ศ. 2541) โดยรวมและรายด้าน
จำแนกตามตำแหน่งงาน
ประสบการณ์ในการทำงานและหน่วยงาน
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่
บุคลากรของสถานประกอบการที่รับผู้สำเร็จการศึกษา จากโรงเรียนเทคโนโลยีทีพีไอเข้าทำงานตั้งแต่ พ.ศ. 2539 พ.ศ.
2541 จำนวน 148 คน
เครื่องมือที่ใช้คือ
แบบสอบถาม เป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ
สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าคะแนนเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
การทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (one-way ANOVA)
ผลการศึกษาพบว่า
1.
ประสิทธิผลในการจัดการเรียนการสอนแบบหลักสูตรความร่วมมือโรงเรียน-โรงงาน ของโรงเรียนเทคโนโลยีทีพีไอ ในภาพรวมอยู่ในระดับสูง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน
พบว่า มีประสิทธิผลอยู่ในระดับสูง 4 ด้าน
คือ ด้านการตรงต่อเวลา ด้านมนุษย์สัมพันธ์ ด้านการปฏิบัติงานตามระเบียบ
และด้านความรับผิดชอบ
2.
การเปรียบเทียบระดับประสิทธิผลในการจัดการเรียนการสอนแบบหลักสูตรความร่วมมือโรงเรียน-โรงงาน ของโรงเรียนเทคโนโลยีทีพีไอ จำแนกตามตำแหน่งงานพบว่า
ในภาพรวมหัวหน้าแผนกและวิศวกรมีความเห็นไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า
มีความเห็นแตกต่างกันในด้านมนุษย์สัมพันธ์ (p < .01) ด้านการปฏิบัติตามคำสั่งแนะนำ (p < .05) และด้านความรับผิดชอบ (p < .05)
3. การเปรียบเทียบประสิทธิผลในการจัดการเรียนการสอนแบบหลักสูตรความร่วมมือโรงเรียน-โรงงาน ของโรงเรียนเทคโนโลยีทีพีไอ
จำแนกตามประสบการณ์การทำงานเมื่อพิจารณาโดยรวมพบว่า
ผู้มีประสบการณ์ทำงานต่างกันมีระดับประสิทธิผลแตกต่างกัน (p <
.05) โดยกลุ่มผู้มีประสบการณ์ทำงานมากกว่า 10 ปี
มีความเห็นต่างกับกลุ่มผู้มีประสบการณ์ทำงาน 610 ปี และกลุ่ม
1-5 ปี
4.
การเปรียบเทียบประสิทธิผลในการจัดการเรียนการสอนแบบหลักสูตรความร่วมมือโรงเรียน-โรงงาน ของโรงเรียนเทคโนโลยีทีพีไอ จำแนกตามหน่วยงาน เมื่อพิจารณาโดยรวมพบว่า หน่วยงานต่างกันมีระดับประสิทธิผลแตกต่างกัน (p < .01)
โดยฝ่ายควบคุมคุณภาพและอื่นๆ
มีความเห็นแตกต่างกับฝ่ายซ่อมบำรุงและฝ่ายผลิต